Social Distancing คืออะไร “เว้นระยะห่าง” อย่างไรให้ปลอดภัย

Social Distancing หรือที่ในภาษาไทยเรียกว่า ‘การเว้นระยะห่างทางสังคม’ ซึ่งการเว้นระยะห่างทางสังคมนี้สามารถเข้าใจง่าย ๆ คือการสร้างระยะห่างระหว่างตัวเราเองกับคนอื่น ๆ ในสังคม รวมถึงการลดการออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะ การไม่เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น และการทำงานอยู่ที่บ้าน ทั้งนี้การทำ Social Distancing จะช่วยลดอัตรการแพร่ระบาดของไวรัสจากคนสู่คน ตามที่ Gerardo Chowell ประธานสาขาวิทยศาสตร์สุขภาพประชากร (Population Health Sciences) จาก Georgia State University ได้เผยว่า ทุก ๆ การลดจำนวนการติดต่อระหว่างคนต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อระหว่างเครือญาติ เพื่อน เพื่อร่วมงาน หรือที่โรงเรียนนั้นจะช่วยลดการแพร่เชื้อไวรัสในสังคมเป็นอย่างมาก 

การใช้มาตรการ Social Distancing นั้นไม่ได้พึ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่ถูกนำมาใช้ในเหตุการณ์การระบาดทั่วโลกหลายในหลาย ๆ ครั้งแล้ว ตั้งแต่การระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu)ในระหว่างปี 1918 ถึง 1920 โดยมีอัตรการเสียชีวิตสูงถึง 50-100 ล้านคนทั่วโลก และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ระบาดจากประเทศเม็กซิโกไปยังทั่วโลก ซึ่งการทำ Social Distancing นั้นได้พิสูจน์ว่ามาตรการป้องกันการระบาดแบบเว้นระยะห่างนั้นมีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยทุเลาระดับความรุนแรงของการระบาดได้จริง 

ดังนั้น รัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศจึงได้ออกมาตรการ Social Distancing ที่เข้มงวดและครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศอิตาลีที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ทางรัฐบาลอิตาลีได้ออกมาตรการ Social Distancing ที่เข้มข้นขึ้น เช่น การห้ามไม่ให้ประชาชนกว่า 60 ล้านคนออกจากบ้าน การเดินทางนั้นสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุญาตจากตำรวจ รวมถึงโรงเรียน พิพิธภัณฑ์ โรงหนัง และร้านค้าต่าง ๆ ที่ถูกปิดลง ยกเว้นร้านขายของชำและร้านขายยาที่ทางรัฐบาลอนุญาตให้เปิดได้ นอกจากอิตาลี หลาย ๆ ประเทศนั้นได้ออกมาตรคล้าย ๆ กัน ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของการระบาดและการตัดสินใจของรัฐบาลในประเทศนั้น ๆ

ในส่วนของทางประเทศไทยนั้น ทางกระทรวงสาธารณะสุข (สธ.) นั้นได้เริ่มเดินหน้าออกมาตรการ Social Distancing เช่น การสั่งปิดสถานบันเทิงต่าง ๆ ชั่วคราว และการแนะนำให้ประชาชนนั้นรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองและผู้อื่น เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสขยายวงกว้างในสังคมไทย

ข้อแนะนำในการทำ Social Distancing

หลาย ๆ ท่านอาจจะมีความสับสนว่า Social Distancing นั้นทำอย่างไร ต้องอยู่ห่างกันระยะเท่าไหร่ถึงจะปลอยภัยจากการติดต่อของไวรัส เรา จึงได้รวบรวมข้อแนะนำในการทำ Social Distancing มาไว้ที่นี่

  1. ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกนั้น การเว้นระยะห่างระหว่างตัวเรากับคนที่มีอาการไอหรือจามนั้นควรรักษาความห่างอยู่ที่อย่างน้อย 1 เมตร เพราะไวรัสนั้นสามารถติดต่อได้ผ่านละอองขนาดเล็กที่มาจากการไอหรือจามได้ ซึ่งถ้าหากอยู่ใกล้ชิดกันเกินไปเราก็อาจจะสูดเอาไวรัสเข้าร่างกายได้ 
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกายภาพ เพราะอาจเป็นการนำเชื้อมาสู่ตัวเอง หรือในขณะเดียวกันก็เป็นการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
  3. หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน หรือการใช้ขนส่งสาธารณะ เนื่องจากไวรัส COVID-19 นั้นสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสและละอองขนาดเล็ก การที่เราออกไปนอกบ้าน ใช้ขนส่งสาธารณะที่มีความหนาแน่น และในบางครั้งเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ราวจับ เช่น รถเมล์ หรือรถไฟฟ้า เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครนั้นมีเชื้อไวรัสอยู่บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นพาหะ (มีเชื้อแต่ไม่มีอาการ) ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเองในขณะนี้
  4. การ Work From Home หรือการทำงานที่บ้านก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่เชื้อ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานที่บริษัทนั้นอาจจะมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่พนักงานบางกลุ่มนั้นไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะที่มีความแออัดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนได้ ซึ่งเป็นที่ที่มีโอกาสสูงในการติดเชื้อ ดังนั้นการให้พนักงาน Work From Home ก็เป็นการป้องกันการแพร่เชื้อทั้งภายในบริษัทและนอกบริษัทเช่นกัน
  5. การเรียนการสอนผ่านทางช่องทางออนไลน์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มหาลัยหรือสถานศึกษาต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ได้เพื่อป้องกันการระบาดภายในมหาลัยและห้องเรียน ต้องขอบคุณความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ทำให้มีแพลตฟอร์มต่าง ๆ มารองรับการเรียนแบบระยะไกล เช่น Zoom, Microsoft Teams และ Google Hangout

การที่เราจะช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาล ภาคเอกชน รวมถึงตัวเราเองที่ต้องคอยป้องกันตัวเอง และการมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม หากมีอาการเหมือนการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ให้รีบไปตรวจที่โรงพยาบาลทันที เพราะถ้าหากเรารู้เร็ว เราก็จะป้องกันได้เร็วและไม่นำเชื้อไปแพร่ผู้อื่น ถึงแม้ว่าการ Social Distancing จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ทาง เรา ก็ขอแนะนำให้ทำควบคู่ไปกับการรักษาความสะอาด ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์หรือสบู่อยู่เสมอ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Page Reader Press Enter to Read Page Content Out Loud Press Enter to Pause or Restart Reading Page Content Out Loud Press Enter to Stop Reading Page Content Out Loud Screen Reader Support